ในการต่อกรกับ Hacker นั้น ผู้เขียนได้เคยมีประสบการณ์อยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่ง Hacker ได้อาศัยช่องโหว่ของโปรแกรม VNC เจาะผ่านระบบเข้ามา และติดตั้งโปรแกรม Remote Control ชื่อ R-Admin อีกทั้งยังได้ฝังโปรแกรม MIRC เอาไว้ในเครื่อง Server เพื่อรองรับการจู่โจมจากภายนอก (Flood Package เพื่อทำให้เครื่อง Hang) และในท้ายที่สุด Hacker ผู้นั้นได้ฝังโปรแกรมทำลาย Hard Disk ซึ่งจะ Fix Bad Sector ไว้ในเครื่อง Server ทำให้ไม่สามารถกู้ข้อมูลกลับโดยวิธีธรรมดาได้ อันเป็นจุดจบของระบบเครือข่ายในที่สุด
ตัวอย่างการเจาะระบบผ่าน Real VNC ภายใน 3 นาที
ในครั้งนั้น มูลค่าความสูญเสียที่ได้รับนั้นมากพอควร ทั้งค่าใช้จ่ายในการกู้ข้อมูลจาก Hard Disk และเวลาที่สูญเสียไปจากการตรวจล็อคในการจัดเก็บข้อมูล (3 วัน)
1. ปิด Port ทั้งหมด และเปิดเฉพาะ Port ที่ใช้งานเท่านั้น ขั้นตอนนี้ เป็น Basic พื้นฐานที่ Admin มักทำกัน โดยในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ทั้งที่ Router และ Server ขั้นตอนในการปิด Port ที่ Router และ Server ดูได้ที่ลิงค์นี้
2. จัดเก็บ Log ที่ Server และ Router เอาไว้ ในการจัดเก็บ Log ทั้งจาก Server และ Router นั้น ขอแนะนำให้เก็บ (ยิง) Log ไว้ที่ Log Server โดยเฉพาะ เพราะหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว Hacker มักจะมุ่งจู่โจม และทำลาย HDD ของ Server ตัวนั้นๆ เสมอ จึงมักไม่เหลือข้อมูลให้ติดตามร่องรอย ขั้นตอนการจัดเก็บ Log ที่ Server และ Router สามารถดูได้ที่ลิงค์นี้ ..
การจัดเก็บ Log พื้นฐาน 1. Router Log 2. Firewall Log 3. Web Server Log
3. อุดช่องโหว่ของโปรแกรม Remote ให้ดี โดยเลี่ยงการใช้ Port มาตรฐาน โดยทั่วไปแล้ว โปรแกรม Remote ต่างๆ นั้นสามารถเปลี่ยน Port ได้เองตามต้องการ จึงไม่ควรใช้ Port มาตรฐานที่โปรแกรมให้มา เพื่อหลีกเลี่ยงการจู่โจม โดยเฉพาะโปรแกรม VNC การกำหนด Security ควรผูก Authentication ไว้กับ Windows ตัวอย่างการเปลี่ยน Port ของโปรแกรมต่างๆ ดูได้จากลิงค์ VDO ด้านล่างนี้