สัมผัสที่หก  กับระบบเครือข่ายรอบทิศทาง

วิถีชีวิตของผู้คนในสมัยนี้  เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก  เมื่อก่อนแหล่งชุมนุมของผู้คนอาจเป็นวัด  โรงเรียน  หรือตลาด  แต่ในในปัจจุบันสำหรับคนในเมืองหลวง  กลับกลายเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่  ที่ผุดขึ้นมานับไม่ถ้วน  และกำลังกระจายไปยังเขตชนบท  ด้วยเพราะห้างสรรพสินค้าเหล่านี้  เป็นแหล่งรวมของกินของใช้ราคาถูก ..... แม้ผู้คนจะมากขึ้น  แต่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในสังคมกลับน้อยลง  วัฒนธรรมตะวันตก  และเอเชียรูปแบบใหม่  สงครามเศรษฐกิจแบบทุนนิยม  ที่เน้นคุณค่าด้านวัตถุ  บางทีสูงสุดอาจกำลังกลับคืนสู่สามัญ  ธรรมชาติของธุรกิจจะย่นระยะทางสินค้าจากผู้ผลิต  ไปสู่ผู้บริโภคใกล้มากขึ้นทุกวัน  แม้ในปัจจุบันห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่จะกุมอำนาจช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าอันทรงพลัง  หากแต่ในอนาคต  เทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น  ตัวกลางเหล่านี้อาจถูกตัดตอนออกไป  โดยช่องทางการจัดจำหน่ายจะกลายเป็น  สินค้าจากผู้ผลิต  ไปยังผู้บริโภค  ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

ดังนั้น  หากใครทำธุรกิจโดยยังยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิม  คือทำเฉพาะแต่ในสิ่งที่จับต้องได้  ก็อาจต้องถดถอย  และปิดตัวลงในที่สุด  ยกตัวอย่างเช่นการทำธุรกรรมด้านการเงินกับธนาคาร  ผู้เขียนสังเกตเห็นเจ้าของกิจการรุ่นเก่าบางคน  เวลาไปธนาคารวุ่นวายยิ่งนัก  ต้องใช้เวลากว่าครึ่งวัน  ไหนจะต้องขับรถไปยังธนาคารต่างๆ  เพื่อรอคิว  เบิกถอน  และหาที่จอดรถ  ซึ่งหากประยุกต์ใช้ระบบธนาคารบนอินเตอร์เน็ตได้แล้ว  เวลาที่สูญเสียไปเหล่านี้  จะถูกตัดออกไป  และกลับกลายเป็นพลังที่จะผลักดันธุรกิจให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น  ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอพูดถึงแนวทางของการทำธุรกรรมต่างๆ  ที่ทำได้บนอินเตอร์เน็ต  ของฝ่ายต่างๆ ในองค์กร  ที่มักนิยมใช้กัน

ฝ่ายขาย

ซึ่งเป็นฝ่ายหน้าด่านหลักที่จะนำรายได้เข้าสู่องค์กร  ในฝ่ายนี้  การติดต่อสื่อสาร  ถือเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง  เพราะต้องรักษาการติดต่อ (Keep Connection) กับลูกค้าไว้ตลอดระยะเวลาที่ลูกค้ากำลังตัดสินใจสั่งซื้อ  ข้อมูลต่างๆ ของฝ่ายขายจะต้องถึงมือลูกค้าในทันท่วงที  ระบบอีเมล์  โทรศัพท์  (อาจรวมถึง VOIP)  เว็บไซต์หน้าร้าน  ต้องมีประสิทธิภาพ  พร้อมที่จะประสานงานระหว่างลูกค้า  และบุคลากรส่วนต่างๆ ภายในองค์กร  ซึ่งระบบเหล่านี้  ปัจจุบันแทบจะเป็นระบบพื้นฐานในการทำธุรกิจไปแล้ว  เรามาเจาะลึกรายละเอียดในระบบเหล่านี้กันสักนิด  ว่ามีอะไรกันบ้าง

- อีเมล์
- โทรศัพท์
- เว็บไซต์

ระบบอีเมล์

ระบบอีเมล์นั้น  หากเป็นองค์กรขนาดเล็กแนะนำให้ใช้บริการกับฟรีอีเมล์ต่างๆ เช่น  Hotmail, Yahoo, Gmail เป็นต้น  ซึ่งหากใครใช้ฟรีอีเมล์เหล่านี้ควบคู่กับโปรแกรมอย่าง Microsoft Outlook, Outlook Express หรือ Windows Live ด้วยแล้ว  การใช้บริการจาก Gmail ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี  (Google App ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ Super User)  โดยท่านจะสามารถรับเมล์ผ่าน POP3  และส่งเมล์ออกไปภายนอกผ่าน SMTP ผู้ให้บริการ (ISP)  ของคุณ  ซึ่ง SMTP ของ ISP ในปัจจุบัน  จำเป็นต้องใส่ User Name และ password ในการส่งเมล์ด้วยทุกครั้ง  เพื่อให้สอดคล้องตาม SPF (Sender Policy Framework)  โดยหาก Profile อีเมล์ในโปรแกรม MS Outlook, Outlook Express ของท่านกำหนดไว้ถูกต้อง  เช่นกำหนดในส่วนของ Reply Mail ถูกต้อง  และใส่ชื่อ Organization ครบถ้วนแล้ว  ก็จะช่วยให้อีเมล์ของท่านไม่ติด Spam List เวลาส่งออกไปภายนอกอีกด้วย  ในเรื่องของอีเมล์นี้  มีเทคนิคต่างๆ มากมายและถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของ Admin ได้เป็นอย่างดี  จากประสบการณ์ของผู้เขียน  ระบบอีเมล์นั้น  มีความต้องการพื้นฐานอยู่ 3 ส่วนด้วยกันดังนี้

- ส่งออกไปยังผู้รับ  ต้องออก  และไม่ติด Spam List
- ลูกค้าส่งมาต้องรับได้ครบถ้วน
- เสถียรภาพระดับ 24 x 7 (เปิดตลอด 27 ชั่วโมง 7 วัน)

หากพื้นฐานของระบบเครือข่ายไม่ดีพอ  ก็อย่าทำ Mail Server ในองค์กรของตัวเองดีกว่าครับ  เพราะแทนที่จะได้ประสิทธิภาพ  กลับจะกลายเป็นการสร้างภาระงานอันยิ่งใหญ่ให้กับท่านอีกด้วย  Mail Server ของลูกค้าส่วนใหญ่แล้ว  มักนิยมใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกมากกว่า (แบบจ่ายรายเดือน)  แต่เหตุผลที่จะต้องตั้ง Mail Server ขึ้นมาภายในองค์กรนั้น  ก็เนื่องมาจากเหตุผลต่างๆ ดังนี้

- ต้องการ อีเมล์โดเมนเป็นของตนเอง  และมีผู้ใช้จำนวนมาก
- ต้องการ Monitor อีเมล์ของแต่ละบุคคล
- ต้องการจัดการอีเมล์ภายในระบบ  ในรูปแบบต่างๆ

โดยหลักแล้ว  การจัดตั้ง Mail Server ภายในองค์กรของตนเองนั้น  ใช้ในกรณีที่มีพนักงานจำนวนมาก  และต้องการลูกเล่นในการส่งต่อ  เช่นอีเมล์ของฝ่ายขายเป็น sale@xxx.com อาจกำหนดให้ส่งต่อไปยังบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้อัตโนมัติ  เป็นต้น  หรือต้องการตรวจสอบการทำงานของพนักงานขายเป็นรายบุคคล  ก็อาจทำ Alias เพื่อดูพฤติกรรมของพนักงานขายคนนั้นๆ  ว่ามีการติดต่อกับลูกค้ารายใดอยู่บ้างเป็นต้น  การทำ Mail Server ภายในองค์กรนั้นไม่ง่าย  เพราะต้องต่อสู้กับ Spam เมล์ที่มาจากภายนอก  ไวรัส  และต้องทำ Mail Server ของตัวเองให้สะอาดตาม SPF กลาง  การทำ Reverse DNS ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้เมล์ Server ของตัวเองผ่าน SPF กลางอีกด้วย  อีกทั้งการจัดเก็บ Log ตาม พรบ.50 นั้น  ก็เป็นสิ่งที่จะละเลยเสียมิได้  หากเรื่องมาถึงตัวคุณแล้ว  มันมักจะสายเกินไป  (ปัจจุบัน พรบ. 50 มีผลเริ่มบังคับใช้แล้ว  และมีการฟ้องร้องจริงๆ กันแล้วในศาล) ..... สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนแนะนำให้ทำเป็นนิสัยทุกครั้งเวลาส่งอีเมล์ก็คือ  Sale ผู้ทำหน้าที่ขายนั้น  ควรมีฟรีอีเมล์สำรองติดตัวไว้  เวลาส่งเมล์ออกไปยังบุคคลภายนอก  ก็ขอให้ CC ถึงฟรีอีเมล์ของตัวเองทุกครั้ง  ทั้งนี้ก็เพื่อการ Cross Check ว่า  ระบบการส่งของเรามีปัญหาไหม  เพราะหากโปรแกรมคุณมีปัญหา (Firewall และ AntiVirus ต่างๆ ที่ติดตั้งในเครื่องคุณ) จะไม่มี Error ใดๆ ตอบกลับมาเลย  คุณสามารถตรวจสอบจากฟรีอีเมล์ของคุณ  คุณก็จะทราบพอสังเขปได้ว่า  เครื่องคุณมีปัญหา  แต่หากอีเมล์ส่งออกแต่ไม่ถึงมือผู้รับ  ระบบเมล์ส่วนใหญ่แล้วจะมีอีเมล์ Error Report เด้งกลับมา  บอกถึงสถานะที่ไม่สามารถจัดส่งได้

ระบบโทรศัพท์

ฟังดูแล้ว  ระบบนี้มีมานานร้อยกว่าปีแล้ว  โดยอเล็กซานเดอร์ เกรแฮมเบลล์  ระบบ PABX แทบจะเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับทุกบริษัทในขณะนี้  หากแต่การจัดการ  จัดสรรระบบให้สามารถติดต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายนั้น  เป็นสิ่งจำเป็นที่จะละเลยเสียไม่ได้  ความต้องการของระบบโทรศัพท์พื้นฐานนั้น  มีอยู่สิ่งเดียวคือ  ทำให้ใช้งานง่าย  เสมือนหนึ่งใช้โทรศัพท์ตามบ้าน  ซึ่งหากท่านมีการติดต่อต่างประเทศอยู่เป็นประจำ  ระบบ VOIP จากผู้ให้บริการค่ายต่างๆ สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก  เช่น TOT Net Call, Ji-Net Mouthmun, True Net Talk, Thook Dee, Cat2Call Plus  เป็นต้น

ก็อย่างที่เคยบอกแหละครับว่า  ทำให้ใช้งานให้ง่าย  เสมือนหนึ่งใช้โทรศัพท์ตามบ้าน  เวลาจะใช้งาน  ก็ขอให้มีขั้นตอนเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย  เช่นตัด 8 เพื่อโทรออกผ่าน VOIP และตัด 9 เพื่อโทรออกระบบโทรศัพท์ธรรมดา  เป็นต้น  เทคโนโลยีของโทรศัพท์ในสมัยนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นแบบ Virtual บนอินเตอร์เน็ตแล้ว  โดยคุณสามารถใช้คอมพิวเตอร์ของคุณที่มีอยู่  เปิดโปรแกรมโทรศัพท์  ใช้ไมโครโฟนและลำโพงใน Notebook  โทรหาเบอร์ภายในออฟฟิตตัวเองแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยก็ได้  ระบบนี้เราเรียกว่า IP PBX ซึ่งในปัจจุบัน  อุปกรณ์ประเภทนี้เริ่มมีขายในท้องตลาดแล้ว  แต่อุปสรรคและปัญหาในการติดตั้งระบบประเภทนี้คือ  โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตนั้นต้องใช้ศิลปะในการทำให้เสียง  โลดแล่นบนระบบอินเตอร์เน็ตให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ไม่ Delay  ซึ่งความต้องการพื้นฐานของ VOIP นั้นมีอยู่ 2 สิ่งคือ (QOS และ VLAN)  ผู้เขียนขอไม่ลงลึกในระบบนี้มากนัก  เดี๋ยวจะปวดหัวไปกันใหญ่  เอาเป็นง่ายๆ แค่ขอให้คุณได้เชื่อมต่อ VOIP กับ PABX ของคุณบ้าง  ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากแล้วครับ  หรือคุณจะเชื่อมต่อระบบโทรศัพท์มือถือกับตู้ PABX ของคุณก็ได้  แต่ส่วนใหญ่แล้ว  โปรโมชั่นมือถือนั้น  เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ  และมีการกำหนดช่วงเวลาในการโทร  ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่ผู้เขียนแนะนำให้เชื่อม VOIP ไว้กับ PABX ของคุณบ้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

เว็บไซต์

สำหรับปราการด่านนี้  อาจดูยุ่งยากวุ่นวายสำหรับผู้ประกอบการรุ่นเก่า  และดูเหมือนกับเป็นสิ่งที่แทบจะไม่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวตนกลับมาเลย  ผู้เขียนเองไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ  และชำนาญการด้านนี้มากนัก  แต่จากประสบการณ์  ผู้เขียนพยายามใช้วิธีการที่เรียกว่า User Inter Active บนหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง  โดยพยายามนำ Service ต่างๆ  ที่ให้บริการกับลูกค้า  นำขึ้นสู่บนหน้าเว็บไซต์  เช่นการแจ้งเคลมสินค้า  การสอบถามปัญหาด้านเทคนิค  การติดต่อข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์  เป็นต้น  ซึ่งเจ้าสิ่งนี้แหละที่ผู้เขียนมองว่า  มันน่าจะมาแทนที่จุดสูงสุดของห้างสรรพสินค้าในเวลาอันใกล้นี้  เมื่อก่อน  การทำธุรกิจ  อาจลักไก่  ตีหัวเข้าบ้านได้  (การตลาดระยะสั้น)  เช่นการขายของโดยไม่รักษาจรรยาบรรณ  หลอกขายของที่ไม่ตรงตามความต้องการกับลูกค้า  แต่ในปัจจุบัน  เมื่อโลกวิวัฒนาการมาถึงจุดที่เรียกว่า  มีการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายรอบทิศทางแล้ว  "ชื่อ"  คือสิ่งสำคัญยิ่งในการประกอบธุรกิจการค้า  เว็บไซต์หรือชื่อโดเมนที่มีความน่าเชื่อถือ  จะกลายเป็นประตูสำคัญในการกระจายสินค้าไปยังจุดต่างๆ  หากคุณมีเว็บไซต์ของคุณอยู่แล้ว  ก็ลองดูซิครับว่า  เว็บไซต์ของคุณ  จะช่วยลดงาน Routine ตรงจุดไหนได้บ้าง  งาน Routine ด้านการขายหลายๆ อย่าง  หากนำขึ้นหน้าเว็บไซต์  ก็จะช่วยลดความเหนื่อยล้าของพนักงานขายได้เป็นอย่างมาก  อีกทั้ง  หากคุณนำเสนอข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ของคุณมากเท่าใด  คุณก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปติดใน List ของ Google ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย  ซึ่งนั่นก็จะถือว่าช่วยทำการโฆษณาได้อีกทางหนึ่ง

ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า  ทำไมอัตราค่าโฆษณาตาม TV  และสื่อต่างๆ  นั้น  จึงมีราคาสูง  เพราะหากพิจารณาอย่างแยบยลแล้ว  จะเห็นได้ว่า  ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา  ผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวในบ้านเรา  เช่นเครื่องดื่ม  เครื่องสำอางค์  สถานเสริมความงาม  ฯลฯ  สิ่งเหล่านี้ล้วนอาศัยพลังของการโฆษณาด้วยกันทั้งสิ้น  ซึ่งหากใครจับจังหวะเวลา  ได้ถูกที่  ถูกเวลา  ก็อาจสามารถพลิกฟื้นธุรกิจของตัวเองได้จากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย  สำหรับธุรกิจขนาดเล็กนั้น  อาจลองทำแบบที่ผู้เขียนกล่าวมาข้างต้นก่อนก็ได้ครับเช่น  เอา Service ในการขายที่ใช้เป็นประจำ  ขึ้นหน้าเว็บไซต์แล้วค่อยๆ พัฒนาขึ้นตามลำดับ

ฝ่ายบัญชี / การเงิน

ในฝ่ายนี้จะเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีอยู่บนอินเตอร์เน็ต  เช่น  Internet Banking, การจ่ายภาษีต่างๆ, ค่าโทรศัพท์, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอินเตอร์เน็ต, ค่าเบี้ยประกันภัย ฯลฯ  เป็นต้น  บริการบางอย่างที่ใช้เป็นประจำเช่น  ค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าอินเตอร์เน็ต ฯ  อาจทำการหักบัญชีอัตโนมัติจากบัตรเครดิตก็ได้  (ได้แต้มสะสมด้วย ^_^)  น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี  และยังมีบริการอีกหลายๆ ตัว  ซึ่งสามารถช่วยบุคลากรด้านนี้ได้เป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะด้านภาษี  เท่าที่ผู้เขียนได้เคยสัมผัสบุคลากรด้านบัญชี/การเงินมานั้น  บุคลากรด้านนี้ไม่ค่อยกล้าใช้เทคโนโลยีด้าน IT สักเท่าไรนัก  เนื่องจากอาจจะยังพะวงเรื่องความปลอดภัยในการใช้  และ  "ยังยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ  ในสิ่งที่จับต้องได้"  เช่นการจ่ายเงินแล้วได้ใบเสร็จ  การเห็นตัวตนผู้รับเงินที่จับต้องได้  เป็นต้น  หลักในการทำธุรกรรมด้านการเงินบนอินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัยนั้น  ผู้เขียนขอแนะนำเทคนิคส่วนตัวดังนี้

• ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เฉพาะเครื่องใดเครื่องหนึ่งในการทำธุรกรรมบนอินเตอร์เน็ตเท่านั้น  หรืออาจใช้เป็น  Notebook  ส่วนตัวเลยก็ดีครับ  (ป้องกัน Key Logger)
• หากท่านไม่ใช่ IT มือฉมัง  ก็อย่าลงโปรแกรมอื่นใดมาก  ให้ลงเฉพาะที่จำเป็นเช่น  โปรแกรมที่ใช้อยู่เป็นประจำ  และ  AntiVirus ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง (ป้องกัน Virus, Trojan)
• ก่อนทำธุรกรรมด้านการเงิน  ให้สังเกต URL ทุกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่  หากสงสัยให้โทรหาเจ้าของเว็บไซต์เลย  (ป้องกัน Phishing)

ในเรื่องของการจ่ายภาษีนั้น  ปัจจุบันกรมสรรพากรมีช่องทางในการจ่ายภาษีแทบจะทุกประเภท  ไม่ว่าจะเป็น ภพ.30, ภงด.90, ภงด.94, ภงด.1, ภงด.3, ภงด.53  รวมถึงการขอหนังสือรับรองบริษัท  การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม  การจดทะเบียนพาณิชย์  ในปัจจุบันก็สามารถจดทะเบียนต่างๆ  ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้แล้ว  เรียกได้ว่าหากคุณต้องติดต่อกับส่วนงานราชการทั้งแบบประจำ  หรือแบบชั่วคราว  ก็ขอให้ลองตรวจสอบบริการด้านต่างๆ  ที่มีอยู่บนอินเตอร์เน็ตเสียก่อน  การใช้บริการจากหน่วยงานราชการผ่านระบบอินเตอร์เน็ตนั้น  จะช่วยเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจไทยพัฒนาไปได้ไกลยิ่งขึ้น  ทั้งประหยัดเวลา  ค่าใช้จ่าย  ลดการคอรัปชั่น  และยังปลอดภัยจากพวกมิจฉาชีพที่อ้างตัว  หรือแอบแฝงมาในรูปต่างๆ อีกด้วย  (e-Government)

และด้วยความที่ปัจจุบัน  เป็นยุคของระบบเครือข่ายรอบทิศทาง  ระบบบัญชีทั้งแบบเดิมและแบบใหม่นั้น  สามารถประยุกต์เชื่อมโยงการใช้งานผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ระบบบัญชี/ภาษี  ของแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน  หากคุณอยู่ประเทศไทย  คุณก็ควรใช้ระบบบัญชีของคนไทยจะดีกว่าครับ  เพราะอัตราและเงื่อนไขการหักภาษีต่างๆ  ของแต่ละประเทศก็มีรูปแบบเฉพาะของตนเองอยู่  ซึ่งในปัจจุบันมีโปรแกรมในเมืองไทยให้เลือกอยู่ไม่น้อย  โดยโปรแกรมเหล่านี้  แทบจะทั้งหมด  ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถใช้งานผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้เกือบทั้งนั้น  โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Terminal Service ซึ่งผู้เขียนได้เคยกล่าวแล้วในบทความก่อนหน้านี้

เจ้าของกิจการ

และด้วยความที่ปัจจุบัน  ประเทศไทยนั้นรองรับระบบเครือข่ายรอบทิศทาง  การควบคุมการทำงานในส่วนต่างๆ  สามารถเชื่อมโยงผ่านระบบเครือข่ายได้ทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะเป็นระบบบัญชี  กล้องวงจรปิด  ระบบอีเมล์  การ Monitor ข้อมูลในส่วนต่างๆ ของระบบ  สามารถเชื่อมโยงเข้ากับระบบเครือข่ายรอบทิศทางได้  ดังนั้น  สิ่งนี้จึงเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจ  หรือเจ้าของกิจการสมัยใหม่เป็นอย่างมาก  คุณไม่ต้องแปลกใจเลยว่าธุรกิจบางอย่างในประเทศไทย  หรือธุรกิจข้ามชาติที่มายังบ้านเรา  เช่นธุรกิจอาหาร  ธุรกิจเฟรนไชน์อื่นๆ  ทำไมธุรกิจเหล่านี้  มีเป็นร้อยเป็นพันสาขา  ทำไมพวกเขาเหล่านั้นจึงสามารถบริหารจัดการ  และควบคุมได้เป็นอย่างดี  นั่นก็เพราะการประยุกต์การเทคโนโลยีเข้ากับระบบเครือข่ายที่มีอยู่รอบทิศทางนั่นเอง  ทีนี้เรามาลองดูในแง่ของเจ้าของกิจการกันบ้างว่า  การใช้เทคโนโลยีในการควบคุมและบริหารที่นิยมใช้มีอะไรกันบ้าง

• ระบบ CCTV (กล้องวงจรปิด)
• การ Remote เพื่อดูสรุปรายงานบัญชี  และข้อมูลระบบจากภายนอก

ในส่วนของระบบ CCTV นั้น  ในปัจจุบันนิยมติดตั้งกันเป็นจำนวนมาก  ทั้งตามบ้านพักอาศัย  และภายในอาคารสำนักงาน  ความต้องการพื้นฐานของระบบนั้น  สำคัญที่สุดคือ  "ต้องมีเสถียรภาพดีเยี่ยม"  และต้องตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะสม  คำว่าจุดที่เหมาะสมนั้น  กล้องแต่ละตัว  ควรมีการระแวดระวังซึ่งกันและกัน  ในลักษณะของ Matrix  เช่น  กล้องตัวนึงอาจจับภาพจากด้านซ้าย  กล้องอีกตัวก็ควรจับภาพจากด้านขวา  ให้เห็นกล้องด้านซ้ายด้วย  เพื่อป้องกันระแวดระวังซึ่งกันและกัน  จึงจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ  จุดโฟกัสของกล้อง  ควรอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมด้วยเช่น  หากต้องการ Monitor แคชเชียร์  ก็ควรให้มุมกล้องซูมลึกเข้ามาเห็นรายละเอียดเวลาเก็บเงินเป็นต้น  ปัจจุบันมีผู้ให้บริการติดตั้งระบบ CCTV หลายรายที่ให้บริการในลักษณะขอไปที  ตรงจุดนี้ก็ควรตรวจสอบกันให้ดีก่อนทำการติดตั้งระบบดังกล่าว  โดยอาจลองโทรสอบถามเกี่ยวกับบริการหลังการขาย  หรือสอบถามความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ

ในส่วนของการ Remote เพื่อดูสรุปรายงานบัญชีจากภายนอกนั้น  สามารถทำได้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้  โดยหากลงทุนด้านเครือข่ายพื้นฐาน  เช่นใช้ Router ที่มีเสถียรภาพดี  และยอมลงทุนกับการซื้อนวัตกรรมจากภายนอกเข้ามาเพื่อพัฒนาศักยภาพของธุรกิจบ้าง  ก็จะสามารถใช้งานทุกส่วนของระบบภายในบริษัทตนเองได้อย่างไม่ยากเย็น  ซึ่งหากว่าจ้างผู้พัฒนาระบบที่เป็นผู้พัฒนาระบบที่แท้จริงเข้ามา  จะช่วยงานคุณได้เป็นอย่างมาก  เพราะหลังจากติดตั้งระบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ผู้พัฒนาระบบที่แท้จริงนั้น  จะส่งต่องานให้กับลูกค้าอย่างพิถีพิถัน  ทั้งในการดูแลระบบต่อไปหลังติดตั้งระบบแล้วเสร็จ  การ Monitor ในส่วนต่างๆ ของระบบก็จะทำได้อย่างง่ายดายผ่านระบบเว็บไซต์  การ Training หลังติดตั้งระบบแล้วเสร็จ  รวมถึงบริการหลังการขายเมื่อระบบมีปัญหาอีกด้วย  ที่สำคัญ  ก่อนจะว่าจ้างผู้พัฒนาระบบ  ควรรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง  และคุยถึงความต้องการให้แจ้งชัด  หลังทำระบบแล้วเสร็จ  ทุกอย่างควรจะต้องสามารถ Remote, Monitor และแก้ไขปัญหาผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ด้วย  ก็จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด  และไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง

ค่านิยมในสังคมไทยนั้น  การแบ่งปันความรู้เกือบจะเป็นเรื่องพื้นฐาน  และไม่สามารถคิดมูลค่าใดๆ ได้มากนัก  ซึ่งต่างกับในต่างประเทศเป็นอย่างมาก  เทคนิคหลายอย่างที่ผู้เขียนไม่สามารถหาในประเทศได้นั้น  เมื่อต้องไปพึ่งพาแหล่งความรู้จากต่างประเทศ  กลับกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าที่สูง  ผู้เขียนเคยจ้างบุคลากรจากประเทศนิวซีแลนด์  เข้ามา Remote Server  เพื่อแก้ไขปัญหา Mail Server  ผู้เขียนต้องยอมจ่ายเงินถึงชั่วโมงละ $200 อย่างน้อย 2 ชั่วโมง  ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว  แต่ในฐานะของผู้พัฒนาระบบแล้ว  อาจทำได้เพราะเทคนิคต่างๆ เหล่านี้  ผู้เขียนสามารถนำมาเอื้อประโยชน์กับลูกค้าหลายรายที่มีอยู่  เสมือนหนึ่งการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว  และอีกตัวอย่างหนึ่ง  เช่น  การสั่งซื้อโปรแกรมจากต่างประเทศ  บางโปรแกรมจำเป็นต้องจ่ายค่า Maintenance โปรแกรมรายปีอีกด้วย  โดยถ้าไม่จ่าย  ก็จะไม่มีการ Support ทางอีเมล์ให้  ซึ่งอัตราค่า Maintenance ก็แพงเอาการอยู่ทีเดียว  สิ่งต่างๆ เหล่านี้ในเมืองไทยไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไรนัก  ซึ่งคงเป็นปัญหาสำหรับ SI หลายรายเช่นกัน  ซึ่งหากใครสามารถปรับตัวได้  ก็จะอยู่รอดในธุรกิจได้

สัมผัสที่หก

ในช่วงแรกที่ผู้เขียนเริ่มทำธุรกิจนั้น  ผู้เขียนถือว่าโชคดีมาก  ที่ได้พบกับคู่ค้าที่ดีจากต่างประเทศ  ในครั้งแรกที่นำผลิตภัณฑ์ DrayTek เข้ามาในเมืองไทยนั้น  ผู้เขียนมีเงินลงทุนอยู่ไม่มากนัก  นำสินค้าเข้ามาราว 10-20 ตัว  เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศไทย  ซึ่งเมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมานั้น  การเชื่อมโยงระบบเครือข่ายผ่าน VPN นั้นเป็นระบบที่ใหม่มาก  ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจ  และไม่สามารถประยุกต์ใช้งานผ่านระบบดังกล่าวได้  ผู้เขียนนั่งจ้องผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาราว 6 เดือน  โดยไม่มีการขายใดๆ เกิดขึ้น  ทางโรงงานสอนผู้เขียนว่า  อย่าคิดว่าเอาไปขาย  ให้คิดว่าเราจะช่วยอะไรเขาได้  เราจะให้อะไรเขาได้  ผู้เขียนจึงลองทำตามที่โรงงานบอก  โดยให้ลูกค้าทดลองใช้งานก่อนโดยไม่คิดมูลค่า  หลังจากนั้น  ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงเริ่มขายได้  และเป็นที่มาของการทดลองใช้งาน 3 สัปดาห์  ซึ่งเมื่อก่อนทาง DrayTek ให้ทดลองใช้งานได้ฟรี  แต่ในปัจจุบันเมื่อฐานลูกค้าขยายกว้างขึ้น  จึงคิดค่า Demo บ้าง  เฉพาะค่าใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น  ซึ่งหลังจากทดลองใช้งานแล้ว  ค่า Demo ดังกล่าวก็สามารถนำมาเป็นส่วนลดในการสั่งซื้อได้เต็มจำนวน

ในแง่ของการบริหารธุรกิจนั้น  ไม่ว่าระบบเครือข่าย  หรืออุปกรณ์คุณจะดีสักเพียงใด  มีระบบที่รัดกุมสักเท่าใด  หากไร้ซึ่งศิลปะในการครองใจคน  สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดอาจไม่มีคุณค่า  ผู้เขียนจำคำของ ซุนเซ็ก ในสามก๊กได้ว่า  "คิดการใหญ่  จะเริ่ม  ต้องเริ่มที่คน  ใช้คนต้องไว้ใจ  ถ้าไม่ไว้ใจ  ไม่ต้องช่วงใช้"  และในเมื่อกล้าที่จะช่วงใช้คนแล้ว  ก็ต้องกล้าที่จะผิดหวัง  ยอมรับกับการคดโกง  การดูถูกเหยียดหยาม  การหลอกใช้  การทรยศหักหลัง  การใส่ร้ายป้ายสี  ฯลฯ  ผู้เขียนเชื่อ่า  บุคคลหลายท่านที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ  ต่างก็ต้องพบเจอสิ่งเหล่านี้ด้วยกันทั้งนั้น  หลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้เขียนไม่อาจบรรยายออกมาได้หมด  หากแต่ต้องใช้ใจสัมผัสเอาเอง  เช่น  ยิ่งให้  ทำไมยิ่งได้รับกลับคืนมา  ทำไมคนพ่ายแพ้กลับชนะ  และทำไมคนชนะกลับพ่ายแพ้  และทำไม  การยอมเสียเปรียบในการทำธุรกิจ  กลับได้ครองในลูกค้าในระยะยาว  สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้อ่านต้องค้นหาเอาเองตามพุทธวิธี

สักวา       หน้าหนาว       ไม่เหงาจิต
นั่งพินิจ       สัจธรรม       ให้คลายเหงา
ทั้งภัยหนาว       น้ำท่วม       ต่างประดัง
อนิจจัง       ทุกขัง       อนัตตา
เมื่อต่ำสุด       จักฟื้น       ขึ้นมาใหม่
หมดเรี่ยวแรง       พักฟื้น       บำรุงขวัญ
มองวิกฤต       ให้เป็น       โอกาสทัน
อย่ามัวนั่ง       ท้อถอย       หมดอาลัย