ถึงแม้ว่า Vigor 3300v จะรองรับ Session ได้มากก็ตาม แต่ในบางสถานะการณ์ก็ยังไม่พอเพียงในการรับโหลดที่ใช้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน Vigor 3300v+ ออกแบบเพื่อให้มีศักยภาพสูงขึ้น โดยเพิ่ม Ram จาก 64 Mb มาเป็น 128 Mb ซึ่งดูแล้วปริมาณ Ram ของ Vigor ตระกูล 3300 Series นี้อาจไม่มากนัก แต่ด้วยความที่เป็น Nature Router ซึ่งทำงานแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้มีการเข้ารหัสในการใช้งานซับซ้อนมากนัก จึงมั่นใจได้ว่า สถานการณ์หนักๆ ที่ 3300v เคยรองรับได้นั้น Vigor 3300v+ ก็จะรองรับได้มากขึ้นเป็นทวีคูณเลยทีเดียว Vigor 3300v+ นั้นยังคงมี 4 Wan port แบบ 10/100 และ LAN Port แบบ 10/100 เช่นเคย

มาตรฐานโดยทั่วไปของ DrayTek คือเป็น Router, Load Balance และ Firewall ในตัว สามารถ Block โปรแกรมประเภท P2P เช่น (Bit Torrent/Bit Comet/Utorrent ...) ได้ โดยในรุ่นนี้สามารถเลือก Block ได้ว่า IP ใด Block P2P และ IP ใดจะไม่ Block ก็ได้ อีกทั้งยังสามารถจำกัดความเร็ว เครื่องลูกข่ายแต่ละเครื่องได้แบบ Kbps (Bandwidth Management) หรือจะเลือกกำหนดความเร็วเป็นกลุ่ม (Range) ก็ได้ คุณสมบัติมาตรฐานอีกอย่างของ DrayTek Vigor ก็คือช่วยแก้ไขปัญหาจากไวรัสและปัญหาจากการ Load P2P ผ่าน Wirelessได้อีกด้วย (Session Over Flow) นั่นคือการจำกัดปริมาณการใช้งาน Session ของเครื่องลูกข่ายแต่ละเครื่องได้ (Session Limit) ซึ่งหากเครื่องใดใช้ Session เกินกว่าที่กำหนดก็จะถูก Block และยังสามารถดูสถานะการใช้งานได้จากเมนู Data Flow Monitor และสามารถสั่ง Block ได้ในทันที

คุณสมบัติโดดเด่นที่เหมาะสมอย่างมากสำหรับเมืองไทยอีกอย่างก็คือ ฟังก์ชั่น Dynamic DNS ซึ่งรองรับ Dynamic DNS 200 Host ได้พร้อมๆ กัน โดยสายสัญญาณ ADSL ในบ้านเรา จะจ่าย Public IP ให้กับ User ตามบ้านโดยตรง ดังนั้นเราจึงสามารถนำ Public IP ที่จ่ายมาจาก ISP "ถึงแม้จะจ่าย IP มาแบบ Random และไม่ซ้ำก็ตาม" จับคู่กับกับ Dynamic DNS ได้ถึง 3 ค่ายพร้อมกัน ซึ่งจากคุณสมบัตินี้ คุณจะมีลูกเล่นเพิ่มขึ้นอีกมาก และทำให้คุณสามารถใช้งานอุปกรณ์ได้เสมือนหนึ่งคุณใช้บริการแบบ Fix IP เลยทีเดียว โดยทั่วไปแล้ว Router ยี่ห้ออื่นๆ อาจทำในลักษณะนี้ได้เหมือนกัน แต่จะ Map DDNS ได้เพียงทีละค่ายเท่านั้น (โดยมากจะเป็น dyndns.com) ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราไม่สามารถมั่นใจกับบริการ Free DDNS ได้มากนัก ซึ่งหาก Map DDNS พร้อมกันได้ 3 ค่าย ย่อมดีกว่า และไม่ว่า DrayTek Vigor จะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ตราบใดที่ยังสามารถอกอินเตอร์เน็ตได้ คุณมั่นใจได้เลยว่า คุณจะสามารถ ควบคุม เชื่อมโยง ผ่าน DDNS ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งด้วยความเป็น Load Balance ยังทำให้ DDNS เลือกที่จะ Map กับ WAN IP ขาใดก็ได้ ความอัจฉริยะอีกอย่างนึงก็คือ สามารถสั่งการให้ Map อัตโนมัติกับขา WAN ที่เหลือ ได้โดยอัตโนมัติ นั่นหมายความว่า หาก DDNS ที่ Map กับขา WAN 1 ล่ม มันก็จะย้ายมา Map กับ Wan โดยอัตโนมัต

ฟังก์ชั่น Load Balance ที่ DrayTek Vigor นั้น มีความน่าเชื่อถือสูงถึง 99.99% เลยทีเดียว เพราะมีกระบวนการมาตรฐานครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน 2 WAN พร้อมๆ กัน หรือกำหนดให้ Wan ใด Wan หนึ่งเป็น Backup หรือเมื่อ Wan 1 ใช้ Speed ความเร็วถึงเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว จะให้ Wan 2 ทำงานโดยอัตโนมัติก็ได้ ความอัจฉริยะของ DrayTek Vigor ในโหมดนี้จะอยู่ตรงที่ หากเป็น Load Balance ยี่ห้ออื่น จะมีปัญหาในการจัดสรรทางออกของอินเตอร์เน็ตผิดพลาด หากใช้งาน 2 ISP คนละค่ายกัน แต่ DrayTek สามารถทำงานด้าน Load Balance ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะใช้งาน ISP ต่างค่ายกันก็ตาม อีกทั้งหากคุณจำเป็นต้องกำหนดเส้นทางขาออกจริงๆ DrayTek Vigor ยังสามารถกำหนดเส้นทางขาออกให้กับเครื่องลูกข่ายภายในเป็นแบบ IP ปลายทาง หรือ Protocol ก็ได้ เช่นหากคุณใช้ WAN 1 เป็น TOT และ Wan 2 เป็น True คุณอยากจะให้ Service ของ SMTP ออกผ่าน Wan 2 ก็สามารถกำหนดได้ โดยกำหนดให้ Port 25 ออกผ่าน Wan 2 อย่างเดียวก็สามารถทำได้

ในส่วนของฟังก์ชั่นพื้นฐานของ Router นั้น DrayTek Vigor ไม่น้อยหน้าใครอย่างแน่นอน เพราะสามารถทำ VLAN ได้ และยังมีฟังก์ชั่นขั้นลึกซึ้งที่ทำ 2nd Subnet ได้อีกด้วย ฟังก์ชั่น Static Route ก็มีให้ใช้งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมถึง 10 เส้นทาง อีกทั้งยังสามารถกำหนดได้ว่า MAC Address ไหนที่จะออกเน็ตได้ หรือออกเน็ตไม่ได้อีกด้วย (Bind IP to MAC) และช่องโหว่มาตรฐานเช่น DOS DrayTek Vigor ก็ไม่ลืมที่จะมีฟังก์ชั่นให้เลือก Block ด้วยเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้ว DrayTek สามารถบังคับทิศทางการใช้งานอินเตอร์เน็ตของ User ให้เป็นไปในทิศทางที่เราต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่น Firewall พื้นฐานตามที่กล่าวมาข้างต้น และยังมีฟังก์ชั่น CSM (Content Security Management) เช่นการ Block Web, Block MSN ฯลฯ ให้ใช้งานได้อย่างครบครันอีกด้วย อย่าลืมนะครับว่า อะไรที่ให้คุณอนันต์ ก็อาจให้โทษมหันต์ได้เช่นกัน หากคุณมีระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในบริษัทฯ และคุณไม่สามารถบังคับทิศทางการใช้งาของ User ได้ คุณอาจสูญเสียมูลค่าของธุรกิจไปโดยไม่รู้ตัว

Corecasys เราให้บริการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นเป็นอย่างมาก เพราะเราขายอุปกรณ์พร้อมบริการหลังการขาย และความรู้ต่างๆ ที่คุณจำเป็นต้องใช้งานเกี่ยวกับอุปกรณ์ของเรา ด้วยความที่เราเป็นผู้พัฒนาระบบ (SI)  เราจึงสามารถผลักดันคุณให้ใช้งานอุปกรณ์ได้จนจบความต้องการของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบาย การให้ทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์ยาวนานถึง 3 สัปดาห์ ยังเป็นข้อพิสูจนได้ว่า เมื่อคุณซื้ออุปกรณ์ไปแล้ว อุปกรณ์จะต้องช่วยงานคุณได้อย่างมีเสถียรภาพ ไม่ใช่เอาอุปกรณ์เข้าไปสร้างปัญหา และความวุ่นวายใจให้กับคุณ