ใช้งานจริง IPPBX , iPhone4 และ 3G ในต่างประเทศ
ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น ผู้เขียนมีโอกาสเดินทางไปที่ประเทศฮ่องกง จุดมุ่งหมายหลักนั้นก็เพื่อที่จะดูตลาดสินค้า IT และในช่วงเวลาที่เหลือ ก็แวะเวียนไปทำบุญ และกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามสถานที่ต่างๆ บ้าง ..... ฮ่องกงนั้น เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่นัก และมีรถไฟฟ้าใต้ดินเชื่อมโยงถึงกันหมด ทั้งฝั่งเกาลูน และฝั่งฮ่องกง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีสัญญาณ 3G กระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะ
ในตอนแรกที่ผู้เขียนเดินทางไปถึงฮ่องกงนั้น ผู้เขียนได้นั่งรถไฟฟ้า MRT เข้าเช็คอินที่โรงแรมเกาลูน ที่เลือกชัยภูมิที่นี่ก็เพราะอยู่ใจกลางฮ่องกง สามารถไปที่อื่นๆ ได้ทั่วทั้งเกาะ ทีแรกคิดว่า ตอนมาอยู่ที่นี่ จะอาศัย Wireless ของโรงแรม โทรผ่าน VOIP กลับออฟฟิตบ้างในช่วงกลางคืน เพื่อคอยเก็บงาน หรือให้คำปรึกษาด้านเทคนิคต่างๆ กับพนักงานภายในบริษัทฯ แต่พอเช็คอัตราค่าบริการแล้ว เสียดายเงินพอควร เพราะอัตราค่าบริการอยู่ที่ 130 ดอลล่าร์ฮ่องกง ($1 = เกือบ 4 บาท) ที่สำคัญคือมันใช้ได้แค่เฉพาะภายในโรงแรมเท่านั้น แล้วเราก็ไม่ค่อยได้อยู่โรงแรมสักเท่าไหร่ด้วย
ตลาดสินค้าไอทีในฮ่องกงนั้น ที่มีมากจะอยู่ที่ "ว่านไจ๋" และ "หม่องก๊ก" ในช่วงที่ไปเดินสำรวจตลาดวันแรกนั้น ผู้เขียนได้สอบถามร้านค้าแผงลอยบริเวณที่พัก (แถวจิมซาจุ่ย) ว่า หากต้องการใช้อินเตอร์เน็ตในมือถือนั่น สามารถทำได้อย่างไรบ้าง ได้คำตอบกลับมาว่า บริการ 3G ที่ประเทศฮ่องกงนั้น ราคาไม่แพงเท่าไหร่นัก ผู้เขียนเลือกใช้บริการ SmarTone ของ Vodafone ซึ่งอัตราค่าบริการจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 8 เหรียญ และหากใช้เกินกว่า 3 ชั่วโมงไปแล้วใน 1 วัน ก็คิดค่าบริการเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น โดยสรุปแล้ว ใช้อินเตอร์เน็ตวันก็ไม่เกิน 24 เหรียญ ผู้เขียนจึงไม่ลังเลที่จะใช้บริการ 3G ตัวนี้ จากนั้นก็นำ Sim Card ใส่ลงไปในมือถือ iPhone ที่ใช้งานอยู่ หน้าตาของสินค้าก็เป็นตามรูปที่ 1
ภาพที่ 1
หลังจากใส่ Sim Card 3G ลงไปในมือถือ iPhone แล้ว ก็มี Message อะไรต่างๆ ก็ไม่รู้เยอะแยะมากมาย เป็นภาษาจีน ส่งมาที่มือถือ ผู้เขียนไม่ได้สนใจอะไร เพียงแต่ลองเปิด Safari แล้วลองเล่นเน็ตดูปรากฎว่า สามารถใช้งานได้ตามปกติ ลองใช้ App "SpeedTest.Net" ทดสอบความเร็วดู ปรากฎว่า ได้ความเร็ว Download ประมาณ 1-2 Mbps ส่วน Upload ได้ประมาณ 200-300 Kbps. ลองเชื่อมต่อ VPN จาก iPhone กลับมายังออฟฟิต ก็สามารถทำได้ ด้วยทรัพย์ยากรพื้นฐานที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้การติดต่อสื่อสาร ระหว่างฮ่องกงกับเมืองไทย เป็นไปได้แบบไม่สะดุดแล้ว
อุปกรณ์ที่ต้องพกติดตัว มีดังนี้
- มือถือ iPhone
- Sim Card 3G แบบที่ไม่ Block VPN และออกอินเตอร์เน็ตได้
- โปรแกรม 3CX (ดาวน์โหลดได้ฟรี)
อุปกรณ์ที่แกนกลางของรบะบบ มีดังนี้
- IPPBX Vigor 3510 หรือ IPPBX 2820
- ADSL Internet ในประเทศไทย
- Account Dynamic DNS (สมัครฟรี)
- ตู้ PABX (รุ่นใดก็ได้)
- Sip Trunk ตามต้องการ เช่น TOT Net Call, Ji-Net เป็นต้น
- Port FXS หรือ FXO
เมื่อภายในบริษัทฯ มีองค์ประกอบดังกล่าวข้างต้นพร้อมแล้ว ทีนี้ผู้เขียนพร้อมที่จะติดต่อจากฮ่องกงกลับมายังออฟฟิตที่เมืองไทย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งเบอร์โทรของ Extension PABX ภายในบริษัทฯ หรือเบอร์ของ Extension IPPBX อีกทั้งผู้เขียนยังสามารถโทรไปยังเบอร์ต่างๆ ภายนอกบริษัทได้ โดยเสียค่าบริการตาม Sip Trunk ที่ Register ไว้ที่ IPPBX เช่น Ji-Net เสียค่าบริการนาทีละ 75 สตางค์ หรือ TOT Net Call นาทีละบาทเป็นต้น และที่สำคัญคือ เมื่อฮ่องกง สามารถใช้ 3G ได้ทั่วทุกพื้นที่แล้ว แน่นอนว่า แม้ผู้เขียนจะอยู่ในประเทศฮ่องกง แต่ก็สามารถติดต่อกลับประเทศไทย เสมือนหนึ่งอยู่ในประเทศเดียวกัน อีกทั้งทางออฟฟิตก็สามารถติดต่อกลับมายังเบอร์ของผู้เขียนได้เช่นกัน ท่านสามารถดู VDO ตัวอย่าง VDO สาธิตได้ที่นี่
หากต้องการขยายภาพเต็มหน้าจอกรุณาคลิ๊กขวาที่ VDO ไปที่เมนู Zoom แล้วเลือก Full Screen
หากต้องการขยายภาพเต็มหน้าจอกรุณาคลิ๊กขวาที่ VDO ไปที่เมนู Zoom แล้วเลือก Full Screen
โปรแกรม Soft Phone ใน iPhone นั้น ผู้เขียนเลือกใช้โปรแกรม 3CX ข้อดีจะอยู่ตรงที่ สามารถใช้งานผ่าน VPN ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาของ VOIP นั้น โดยมากจะมีปัญหาเรื่อง Nat ซ้อนกันหลายชั้น ซึ่งจะส่งผลให้การรับส่งข้อมูลเสียง ดังบ้างไม่ดังบ้าง เช่นโทรติดแล้ว เวลาพูดไปฝั่งนึงได้ยิน แต่อีกฝั่งนึงไม่ได้ยิน การใช้ 3cx ควบคู่ไปกับการใช้ VPN ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ข้อดีของโปรแกรม 3cx ผ่าน VPN นั้นคือ ที่เมืองไทยสามารถโทรกลับหาผู้เขียนได้อีกด้วย หน้าตาของโปรแกรม 3CX ตามภาพที่ 2
ภาพที่ 2
ในเมื่อการติดต่อสื่อสาร ได้มีการถูกเข้ารหัสผ่าน VPN (ป้องกันการดักฟัง) และสามารถติดต่อระหว่างต่างประเทศกลับมายังประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว อรรถประโยชน์ที่จะได้รับนั้น มากมายมหาศาลยิ่งนัก ลองนึกภาพดูครับว่า หากประยุกต์ใช้งานภายในบริษัทขนาดใหญ่ เช่นให้ทีมผู้บริหารเอาไว้สำหรับสั่งการ หรือทีมพนักงานขายเอาไว้สำหรับประสานงานกับฝ่ายผลิต หรือฝ่ายบริการ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน ขอให้ออกอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะผ่าน Wireless หรือ 3G ท่านก็สามารถโทรติดต่อภายในองค์กรของตนเองได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย ลองดูรายละเอียดตามภาพที่ 3 ครับ
ภาพที่ 3.1 การจำลองเส้นทาง iPhone โทรหา Extension PABX
ภาพที่ 3.2 การจำลองเส้นทาง iPhone โทรหาเบอร์โทรภายนอก
ภาพที่ 3.3 การจำลองเส้นทาง Extension PABX โทรหา iPhone
จากตัวอย่างภาพที่ 3.1 - 3.3 นั้นจะเห็นได้ว่า เป็นการติดต่อโดยสมบูรณ์ แบบเคลื่อนที่ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 3G ซึ่งในปัจจุบัน เมืองไทยนั้นได้เริ่มมีบริการ 3G ครอบคลุมเกือบจะทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว ทั้ง TOT3G, AIS, DTAC, True แต่จะเลือกใช้ 3G ของค่ายใดนั้นขึ้นก็ขอให้ตรวจสอบดูด้วยว่า ผู้ให้บริการ 3G รายนั้น Block VPN ด้วยหรือเปล่า ซึ่งหากไม่ Block VPN และสามารถออกอินเตอร์เน็ตได้ ก็จะสามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารได้ตามภาพที่ 3.1 - 3.3 ข้างต้น (เท่าที่เคยใช้มา TOT3G Block VPN ครับ AIS ไม่ Block ส่วนค่ายอื่นๆ นั้นไม่ทราบจริงๆ ต้องลองดูเอาเอง)
ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2554 นี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นลงอย่างน่ากลัว บางวันราคาขึ้นบาทละ 1,000 บาท และบางวันราคาตกลงถึงเกือบ 2,000 บาท เมื่อตลาดทองราคาผันผวนเช่นนี้แล้ว ผู้คนทั่วไปและนักเก็งกำไร ต่างระดมเข้ามาสู่ตลาดนี้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เทคโนโลยีต่างๆ ถูกนำมาใช้ที่หน้าร้านทอง บางคนเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นบ้างก็ใช้ 3G, Edge หรือ GPRS บางคนไม่มีเทคโนโลยีเหล่านี้ติดตัว ก็ต้องคอยโทรหาที่บ้าน หรือคนรู้จักเพื่อเช็คราคาทองคำอยู่ตลอดเวลา ในโลกที่การติดต่อสื่อสารสามารถทำได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ หากใครไม่รู้จักปรับตัวตามกระแสเทคโนโลยี คนที่เคยรุ่งเรือง ก็อาจร่วงโรยได้เหมือนกัน
ผู้เขียนได้รับ Request จากลูกค้ารายหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน และคอนโด ลักษณะของธุรกิจประเภทนี้คือเป็นงานโครงการ มีการโยกย้ายที่ตั้งแหล่งก่อสร้างอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานใหญ่ สำนักงานสาขา หรือไซต์งานก่อสร้าง จะมีการโยกย้ายอยู่เรื่อยๆ บางทีก็ปีละครั้ง บางที 4-5 ปีก็จะย้ายครั้งเป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่บริษัทฯ แห่งนี้ไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงและโยกย้ายตามสถานที่ นั่นคือเบอร์โทรศัพท์ในการติดต่อ ลูกค้ารายนนี้ต้องการจัดทำระบบ Call Center ที่จะสามารถโทรเข้ามาที่ส่วนกลาง และสามารถโอนสายไปยังส่วนงานต่างๆ ตามสาขาได้ เช่นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซอยราชครู และสำนักงานขายตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ ไซต์งานก่อสร้างตั้งอยู่ที่เอกมัย ทั้ง 3 แห่ง ต้องสามารถติดต่อถึงกันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเมื่อลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ส่วนกลางแล้ว ต้องสามารถโอนสายไปยังสาขาทั้ง สองแห่งได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ความต้องการของระบบแกนกลาง
- IPPBX Vigor 3510 หรือ IPPBX 2820
- ADSL Internet ในประเทศไทย
- Account Dynamic DNS (สมัครฟรี)
- ตู้ PABX (รุ่นใดก็ได้)
- Sip Trunk ของ Cat2Call Plus เท่านั้น (ใช้ในการรับสาย)
- Port FXS หรือ FXO
ความต้องการของระบบสาขา
- อินเตอร์เน็ต ADSL
- Voice Box ที่สามารถทำ VPN ได้
แนวความคิดนี้ก็เสมือนหนึ่งการประยุกต์ใช้ iPhone จากฮ่องกง โทรกลับเมืองไทยนั่นเอง เพียงแต่เปลี่ยนจาก iPhone เป็น Voice Box ที่สามารถทำ VPN ได้เท่านั้น ปัจจุบัน สายสัญญาณ ADSL ในบ้านเรานั้น เสถียรภาพอยู่ในเกณฑ์ดีพอควรเลยทีเดียว ซึ่งหากกังวลเรื่องเสถียรภาพของสายสัญญาณอินเตอร์เน็ต สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้ IPPBX ที่เป็น Load Balance ในตัวก็ได้ หรือหรือหากอยากให้อินเตอร์เน็ตที่สาขามีเสถียรภาพสูง ก็สามารถใช้ Load Balance ที่สาขาได้ด้วยเช่นกัน โครงสร้างของอินเตอร์เน็ตที่มีเสถียรภาพนั้น คือ 2 Carrier และ 2 Gateway ..... Carrier หมายถึงผู้ให้บริการสายนำสัญญาณ หรือสายทองแดง หรือ Fiber Optic ในประเทศไทย เช่น True, TOT, CAT, UIH เป็นต้น ส่วน Gateway นั้น หมายถึงผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เช่น CS Loxinfo, KSC, Ji-Net, INET, True, TOT, CAT เป็นต้น หลายๆ Carrier ส่วนใหญ่ในบ้านเราก็มักจะให้บริการอินเตอร์เน็ตไปด้วย ซึ่งหากสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตประกอบด้วย 2 Carrier และ 2 Gateway แล้ว อินเตอร์เน็ตก็แทบจะไม่มีวันล่มเลย ซึ่งหากล่มก็อาจล่มที่ตัวอุปกรณ์ แต่หากต้องการเสถียรภาพจริงๆ ก็สามารถใช้คุณสมบัติ HA หรือ VRRP ที่ตัวอุปกรณ์เพื่อป้องกันการล่มของอุปกรณ์ได้เช่นกัน รายละเอียดของ HA หรือ VRRP นั้นดูได้ที่ลิงค์นี้ https://corecasys.com/tech/read.asp?no=430
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วทุกมุมโลก อินเตอร์เน็ต จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คน ธุรกิจใดที่ไม่เคยปรับตัวเลย ก็อาจร่วงโรยได้ในที่สุด ที่กล่าวเช่นนี้ มิใช่เพื่อกระตุ้นให้บ้าคลั่งเทคโนโลยีอย่างไร้เหตุผล แต่อยากให้สละความยึดติดในกรอบความคิดเดิมๆ และอย่าตัดสินคน หรือเทคโนโลยี เพียงมองจากภายนอก โดยมิได้ศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ..... ถึงแม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นวงการค้าใดก็ตาม สิ่งนั้นคือ การรักษาเครดิตทางการค้า คงเหมือนคำของ "ฮันต๊อกจู" ตัวละครในเรื่อง "อิมซังอ๊ก ยอดพ่อค้าหัวใจทรนง" ละครช่อง 3 ที่เคยกล่าวไว้ว่า
"การค้าที่แท้จริง คือการกำไรใจคน ไม่ใช่กำไรเม็ดเงิน ไม่ใช่หวังแต่ผลกำไร แต่ต้องกำใจคน กุมใจคนได้ ..... ถ้าหากว่ากำใจคน กุมใจคนได้ นั่นแหละคือการทำการค้า ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองก็จะไหลมาเอง การต่อสู้เพื่อให้ได้เงินมาเพียงอย่างเดียวนั้น มันไม่ใช่การทำการค้า แต่มันคือทาสเงินตรา"